วิธีการของเราเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและหลักการในการบังคับใช้

ทวิตเตอร์คือแหล่งที่สะท้อนให้เห็นถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นจริงบนโลก ซึ่งบางครั้งอาจมีมุมมองที่ดูก้าวร้าว ขัดแย้ง และ/หรือเหยียดหยามต่อผู้อื่น แม้ว่าเราจะยินดีให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นของตนบนบริการของเรา แต่เราจะไม่เพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่เป็นการคุกคาม ข่มขู่ และใช้ความหวาดกลัวเพื่อให้ผู้ใช้รายอื่นไม่กล้าแสดงความคิดเห็น

เรามีการบังคับใช้ ข้อบังคับของทวิตเตอร์ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะรู้สึกปลอดภัยในการแสดงความเชื่อของตน และเราจะพยายามบังคับใช้ข้อบังคับดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การดำเนินการบังคับใช้รูปแบบต่างๆ

 

กระบวนการพัฒนานโยบายของเรา
 

การสร้างนโยบายใหม่หรือทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายจำเป็นต้องมีการทำวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของพฤติกรรมทางออนไลน์ การพัฒนาภาษาภายนอกที่ชัดเจนซึ่งจะกำหนดความคาดหวังของเนื้อหาที่อนุญาต และการสร้างคู่มือการบังคับใช้สำหรับนักตรวจสอบ ซึ่งจะมีระดับที่แตกต่างกันออกไปสำหรับทวีตจำนวนหลายล้าน

ในขณะที่มีการร่างภาษาที่ใช้ในนโยบาย เราได้รวบรวมความคิดเห็นจากทีมงานภายในหลากหลายฝ่าย รวมถึงจากคณะทำงานฝ่าย Trust & Safety ของเราด้วยเช่นกัน นี่คือขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เรามั่นใจว่าเราได้คำนึงถึงมุมมองจากทั่วโลกเกี่ยวกับลักษณะการใช้คำพูดในโลกออนไลน์ที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการใช้และตีความข้อบังคับของเราในบริบททางวัฒนธรรมและสังคมที่แตกต่างกัน ท้ายที่สุด เราจะฝึกอบรมทีมตรวจสอบของเราทั่วโลก อัพเดทข้อบังคับของทวิตเตอร์ และเริ่มบังคับใช้นโยบายใหม่

 

หลักการในการบังคับใช้ของเรา
 

เราสนับสนุนให้ผู้คนทำความเข้าใจแง่มุมต่างๆ ของปัญหา และส่งเสริมให้มีการพูดคุยเกี่ยวกับความคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่างกันอย่างเปิดกว้าง แนวทางเช่นนี้ทำให้แพลตฟอร์มของเรามีรูปแบบการใช้คำพูดที่หลากหลาย และที่สำคัญยังส่งเสริมการพูดโต้แย้ง ซึ่งรวมถึงการใช้คำพูดที่แสดงข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือการเข้าใจผิด ชี้ให้เห็นถึงการเสแสร้งหรือความขัดแย้ง ตักเตือนถึงผลที่ตามมาทางออฟไลน์และออนไลน์ วิจารณ์ด้วยคำพูดที่แสดงถึงความเกลียดชังและส่อถึงอันตราย หรือช่วยให้เปลี่ยนความคิดและสร้างความปรองดอง

ด้วยเหตุนี้ บริบทจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินการบังคับใช้หรือไม่ เราจะคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง)

  • พฤติกรรมในการพุ่งเป้าหมายที่บุคคล กลุ่มคน หรือประเภทผู้ใช้ที่มีการป้องกันบัญชี
  • มีการยื่นรายงานโดยผู้ที่เป็นเป้าหมายของการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือผู้เห็นเหตุการณ์
  • ผู้ใช้มีประวัติในการละเมิดนโยบายของเรา
  • การละเมิดกฎขั้นร้ายแรง
  • เนื้อหาอาจเป็นหัวข้อที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยชอบธรรม


พฤติกรรมนั้นมีการพุ่งเป้าหมายที่บุคคลหรือกลุ่มคนหรือไม่

เพื่อรักษาความสมดุลของการอนุญาตให้ผู้ใช้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้บนแพลตฟอร์มและการปกป้องผู้ใช้ของเรา เราจะบังคับใช้นโยบายเมื่อมีผู้ใช้รายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งพุ่งเป้าหมายไปยังบุคคลหรือกลุ่มใดโดยเฉพาะ การกำหนดเป้าหมายอาจเกิดขึ้นโดยวิธีการต่างๆ (ตัวอย่างเช่น @การพูดถึง การแท็กรูป การพูดถึงชื่อ และอื่นๆ)


มีการยื่นรายงานโดยผู้ที่เป็นเป้าหมายของการกระทำที่ดูไม่เหมาะสมหรือผู้เห็นเหตุการณ์หรือไม่

บางทวีตอาจดูไม่เหมาะสมเมื่อมองเพียงด้านเดียว แต่อาจไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อดูประกอบกับบริบทในบทสนทนาที่มากขึ้นหรือความสัมพันธ์ในอดีตของผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม ตัวอย่างเช่น การหยอกล้ออย่างเป็นมิตรในหมู่เพื่อนอาจดูก้าวร้าวสำหรับผู้เห็นเหตุการณ์ และคำพูดบางอย่างอาจเป็นที่ยอมรับในวัฒนธรรมหนึ่ง แต่อาจไม่เป็นที่ยอมรับในวัฒนธรรมอื่น เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ทีมของเราเข้าใจผิดและลบการโต้ตอบที่มีการยอมรับร่วมกันออก ในบางสถานการณ์เราจะขอให้ผู้ใช้จริงที่ตกเป็นเป้าหมาย (หรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาต) กรอกรายงาน ก่อนที่เราจะดำเนินการบังคับใช้ใดๆ


ผู้ใช้มีประวัติในการละเมิดนโยบายของเราหรือไม่

เราเริ่มจากจุดที่คาดว่าผู้คนไม่ได้ตั้งใจละเมิดข้อบังคับของเรา หากการละเมิดข้อบังคับไม่ร้ายแรงมากจนเราต้องระงับการใช้งานบัญชีในทันที เราจะพยายามให้ความรู้ผู้คนเกี่ยวกับข้อบังคับของเราและให้โอกาสพวกเขาปรับปรุงพฤติกรรมของตนก่อน เราจะแจ้งให้ผู้ละเมิดกฎทราบถึงทวีตที่กระทำผิด อธิบายว่าเป็นการละเมิดข้อบังคับข้อใด และขอให้พวกเขาลบเนื้อหาดังกล่าวก่อนที่จะสามารถทวีตได้อีกครั้ง หากผู้ใช้ละเมิดข้อบังคับของเราซ้ำๆ เราจะดำเนินการบังคับใช้ที่จริงจังยิ่งขึ้น ซึ่งได้แก่ การขอให้ผู้ละเมิดกฎลบทวีตและดำเนินการเพิ่มเติม เช่น การยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชี และ/หรือการจำกัดการทวีตตามระยะเวลาที่กำหนด หากผู้ใช้ยังคงละเมิดข้อบังคับของเราต่อไปจนไม่สามารถตักเตือนได้ บัญชีของพวกเขาอาจถูกระงับการใช้งานโดยถาวร


การละเมิดกฎขั้นร้ายแรงคืออะไร

พฤติกรรมบางประเภทอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรง และ/หรือนำไปสู่ปัญหาทางกายภาพ อารมณ์ และการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง การละเมิดข้อบังคับของทวิตเตอร์ขั้นร้ายแรง เช่น การโพสต์การคุกคามที่จะใช้ความรุนแรง สื่อที่มีเรื่องส่วนตัวโดยไม่ได้รับการยินยอม หรือเนื้อหาที่มีการล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก จะส่งผลให้บัญชีถูกระงับการใช้งานอย่างถาวรโดยทันที การละเมิดข้อบังคับอื่นๆ อาจนำไปสู่ขั้นตอนการดำเนินการที่แตกต่างกัน เช่น การขอให้ผู้ใช้ลบทวีตที่กระทำผิดและ/หรือการจำกัดการโพสต์ทวีตใหม่ชั่วคราว


พฤติกรรมมีความสำคัญพอที่จะเป็นข่าวและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยชอบธรรมหรือไม่

ทวิตเตอร์ขับเคลื่อนไปตามความเร็วของความสนใจของสาธารณชน และผู้คนต่างมาใช้บริการเพื่อรับข่าวสารที่พวกเขาสนใจ การเปิดรับมุมมองที่แตกต่างจะช่วยให้ผู้คนได้เรียนรู้จากกันและกัน มีความอดกลั้นมากขึ้น และตัดสินใจว่าเราต้องการอยู่ในสังคมแบบใด

เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะมีโอกาสเห็นปัญหาครบทุกด้าน เราจึงอนุญาตให้มีการเข้าถึงเนื้อหาหรือพฤติกรรมที่กำลังเป็นที่ถกเถียงซึ่งอาจละเมิดข้อบังคับของเราได้ต่อไป เนื่องจากเราเห็นว่าการเข้าถึงเนื้อหาหรือพฤติกรรมดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยชอบธรรม ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง แต่ละสถานการณ์จะได้รับการประเมินเป็นกรณีไป โดยทีมที่ปฏิบัติงานข้ามสายงานมีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจ

ปัจจัยที่ช่วยให้เราดำเนินการตัดสินใจเกี่ยวกับเนื้อหา ได้แก่ ผลกระทบที่อาจมีต่อสาธารณะ แหล่งที่มาของเนื้อหา และตัวเลือกการรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์

ผลกระทบต่อสาธารณะของเนื้อหา: หัวข้อที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยชอบธรรมแตกต่างจากหัวข้อที่สาธารณชนใคร่รู้ เราจะพิจารณาว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง หากไม่ทราบเกี่ยวกับเนื้อหานี้ หากทวีตดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมาก การดำเนินการในประเทศ และ/หรือมีการพูดถึงประเด็นทางสังคมที่สำคัญ เราอาจอนุญาตให้เข้าถึงเนื้อหาดังกล่าวได้ต่อไป เช่นเดียวกัน หากผลกระทบต่อสาธารณะมีเพียงเล็กน้อย มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะลบเนื้อหาที่ละเมิดกฎนโยบายของเราออกไป

แหล่งที่มาของเนื้อหา: ผู้คน กลุ่มคน องค์กรบางราย และเนื้อหาที่พวกเขาโพสต์บนทวิตเตอร์อาจถือว่าเป็นหัวข้อที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยชอบธรรม เนื่องจากพวกเขาเป็นที่สนใจของสาธารณชน ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าทวีตของพวกเขาจะสามารถเข้าถึงได้อยู่เสมอ แต่เราจะพิจารณาว่าทวีตดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะโดยชอบธรรมหรือไม่ หากจะรักษาการเข้าถึงไว้เพื่อให้พูดคุยเกี่ยวกับทวีตนี้ได้อย่างเปิดเผย

ตัวเลือกการรายงานข่าว: ทุกวันนี้ ผู้คนมีส่วนสำคัญในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลก การโต้แย้งมุมมองที่มีมาช้านาน และในบางกรณีก็มีการเปิดโปงผู้มีอำนาจที่ใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสมผ่านประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย การลบการเข้าถึงข้อมูลบางส่วนอาจเป็นการซ่อนบริบทและ/หรือกีดกันไม่ให้ผู้คนเห็นปัญหาครบทุกด้านโดยไม่เจตนา ดังนั้น ก่อนดำเนินการกับทวีตที่อาจละเมิดกฎ เราจะคำนึงถึงบทบาทของทวีตในการแสดงภาพรวมของเหตุการณ์ และดูว่ามีการพูดถึงเนื้อหาดังกล่าวในแหล่งอื่นหรือไม่

แบ่งปันบทความนี้